Pretty MC / PG / PT / PC / BA คือใคร สำคัญอย่างไรต่องานอีเวนต์

              เวลาเรามาเดินงานอีเวนต์ต่างๆ มักจะเห็นคนอาชีพหนึ่ง หน้าตาหล่อสวย พูดเก่งๆ ยืนอยู่ในบูธหรือบนเวที  ส่วนใหญ่มักเรียกว่า Pretty MC หรือ PC หลายๆ คนอาจจะเคยได้ยินอาชีพเหล่านี้มาบ้าง แต่น้อยคนมากที่จะทราบรายละเอียดและความแตกต่างของแต่ละอาชีพในสายงานนี้ งานไทยเที่ยวไทย ขอจำแนกความแตกต่างของคนอาชีพเหล่านี้ว่ามีอะไรบ้าง ทำหน้าที่อะไร และสำคัญอย่างไรกับงานอีเวนต์ มาดูกัน

              1. Pretty MC (Master of Ceremonies) คือ งานเชียร์ขายสินค้าหรือบริการ ใช้ทักษะการพูดให้ผู้ฟังคล้อยตาม สามารถพูดประชาสัมพันธ์ออกไมค์ได้(ในวงการจะเรียกว่า โฟน คือ ต้องพูดสื่อสารผ่านเครื่องขยายเสียงออกสื่อในที่สาธารณะได้) ปิดการขายได้ และต้องมีบุคลิกภาพดี โดยการแต่งกายจะขึ้นอยู่กับทางเจ้าของแบรนด์สินค้า ลูกค้าอาจจะมีสคริปให้ หรือโยนโบร์ชัวร์ บอกโปรโมชั่นมา แล้วให้พูดดะเอง ซึ่งเหล่า MC มือโปรก็จะไม่มีปัญหา สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพแม้บางคนอาจจะไม่สวยเป๊ะ แต่โฟนเก่งมาก ก็ถือเป็นความสามารถที่ลูกค้าต้องการจนสามารถมองข้ามความสวยไปได้โดยค่าตอบแทนจะอยู่ที่ 1,000 บาท ขึ้นไป

             2. PC (Personal Consultant) คือ พนักงานแนะนำสินค้าหรือพนักงานเชียร์ขายสินค้าที่อยู่ตามห้างหรือบูธสินค้า ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ในซุปเปอร์สโตร์ใหญ่ๆ จะมีพนักงานยืนตามชั้นสินค้าของตัวเอง ใส่เสื้อแบรนด์สินค้านั้นๆ เมื่อลูกค้าเดินเข้าไปในโซนผลิตภัณฑ์ของตัวเองก็จะเข้ามาแนะนำ ซึ่ง PC ต้องได้รับการเทรนข้อมูลอย่างถูกต้องมาก่อน เพื่อที่จะได้ตอบคำถามและให้ข้อมูลแก่ลูกค้าได้ รายได้ โดยเฉลี่ย 500+ ต่อวันลักษณะงานเป็นพนักงานห้าง คนหนึ่ง ต้องยืนตลอด ห้ามเล่นโทรศัพท์ มีเวลาพักตามรอบที่กำหนด นอกจากรายได้ประจำอาจ มีค่าคอมมิชชั่นจากยอดขายด้วย

                   3. PG (Promotion Girl) คือ พนักงานโปรโมทสินค้า เน้นการขายสินค้าที่มีการจัดโปรโมชั่น ส่วนมากจะเป็นประเภทงานพาร์ทไทม์ไม่ใช่งานประจำเนื่องจากสินค้าที่ขายเป็นสินค้าเฉพาะช่วงทำโปรโมชั่น เช่น เดิน Troop หรือยืนประจำตามร้านและบูธต่างๆ มักคัดพนักงานที่หน้าตาและบุคลิกภาพดี โดยรวมคือเป็นพนักงานแนะนำสินค้าและบริการ ที่สามารถเพิ่มยอดขายในแก่บริษัทได้ ต้องรู้ข้อมูลสินค้า ตอบคำถาม แนะนำลูกค้าได้ ต้องยืน ต้องเชียร์ขาย แต่จะเน้นขายสินค้าช่วงโปรโมชั่น มียอดขายตามเป้าที่กำหนด อาจมีเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย สวยๆ น่ารักๆเพื่อดึงดูดความสนใจ เป็นตำแหน่งที่อยู่ระหว่าง Pretty กับ PC คือสวยด้วยและขายได้ด้วย รายได้ โดยเฉลี่ยประมาณ 700+ บาท/วัน

                   4. PT (Pretty Boy/Girl) คือ พริตตี้ แปลว่าน่ารัก มักเป็นหนุ่มหล่อ สาวสวย ยิ้มเก่ง สามารถตอบคำถามเบื้องต้นเกี่ยวกับสินค้าได้ ถ้าลูกค้าสนใจก็แนะนำไปให้เซลล์ดูแลต่อแทน การที่ต้องมี PT แบบนี้ ก็เพื่อเป็นการดึงดูดลูกค้า เพื่อส่งเสริมการตลาด และสร้างภาพลักษณ์ให้แก่องค์กรค่ะ สังเกตได้ชัดเจนเลยถ้าใครเคยไปงาน Motor Show เราจะพบเห็น PT ของแต่ละแบรนด์รถยนต์ที่มีการแต่งกายแตกต่างกัน แบรนด์รถยนต์ระดับ Hi-Class สาวๆ PT จะเน้นแต่งกายแบบเรียบหรู หรือแบรนด์รถยนต์ที่เน้นความทันสมัย PT ก็จะแต่งกายโฉบเฉี่ยว ทะมัดทะแมง เป็นต้นค่ะ ซึ่งเรายังสามารถพบเห็นPT เหล่านี้ได้ตามงานกิจกรรมส่งเสริมการตลาด (Events) งานแสดงสินค้า (Exhibitions) อื่นๆอีกมากมายค่ะ  หน้าที่ของ PT คือ ต้องยืนประจำบูท บางงานอาจให้นั่งได้บ้าง การใส่รองเท้าส้นสูงเพื่อความสง่า เรื่องชุดเสื้อผ้าแล้วแต่ทางเจ้าของสินค้า/ผู้ว่าจ้างกำหนด อาจมีอยู่แล้ว ตัดให้ใหม่ หรือบอกสีให้ไปหามาเอง บางงานก็ให้มาแจกสินค้าโบร์ชัว หรือแม้แต่ยืนถ่ายรูป เชิญรางวัล ต่างๆ สิ่งจำเป็นของอาชีพพริตตี้ คือ บุคลิกภาพ ความสวยหล่อ ดูดี รูปร่างได้สัดส่วน ต่อมาก็เป็นเรื่องทักษะความรู้ ที่สามารถ เรียนรู้ข้อมูลงานได้เร็ว มีมนุษยสัมพันธ์ดี รายได้ โดยเฉลี่ย 1,500 – 3,000 บาท/วัน

                  5. BA (Beauty Advisor) คือ พนักงานเชียร์สินค้า แนะนำให้คำปรึกษาเกี่ยวกับเครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์เสริมความงาม เป็นพนักงานที่อยู่ตามเคาท์เตอร์เครื่องสำอางตามห้างสรรพสินค้า มีหน้าที่ในการให้ความรู้และคำแนะนำเกี่ยวกับเครื่องสำอางให้กับลูกค้า รวมถึงการสาธิตการใช้เครื่องสำอางแต่ละชิ้นให้กับลูกค้าที่สนใจ นอกจากจะต้องมีความรู้เกี่ยวกับสินค้าที่จะต้องนำเสนอแล้ว BA จะต้องมีทักษะในการติดต่อสื่อสาร พูดจูงใจ รวมถึงความสามารถทางด้านศิลปะ ความงาม การแต่งหน้า และสามารถทำการขายสินค้าให้กับลูกค้าได้ด้วย รายได้ แล้วแต่แบรนด์/ยอดขาย โดยมากเป็นพนักงานประจำ ค่าตอบแทนเริ่มต้นจะอยู่ที่ 9,500 บาท และจะได้ยอดค่าคอมมิชชันจากยอดขายประมาณ 2,000-5,000 บาท แล้วแต่แบรนด์

                 จะเห็นได้ว่าคนสายงานอาชีพเหล่านี้ ล้วนต้องมีความสามารถเฉพาะแตกต่างกันไป และทุกอาชีพล้วนเป็นงานที่ต้องใช้ทักษะการขายและความกล้าที่จะเข้าหาลูกค้าเป็นอย่างมาก แลกกับยอดขายและรายได้ที่ขึ้นอยู่กับความสามารถส่วนบุคคล  นับว่าเป็นงานที่ท้าทายมาก

                 ปัจจุบัน ปัจจัยความสำเร็จของงานอีเวนต์ ส่วนหนึ่งมาจากคนในสายงานอาชีพข้างต้น ถ้าใครอยากออกบูธงานไทยเที่ยวไทยแล้วต้องการความสำเร็จทั้งยอดขายหรือประชาสัมพันธ์สินค้า ก็ลองเลือกใช้บริการจากน้องๆ ในสายงานอาชีพเหล่านี้มาช่วย ไม่ผิดหวัง  

ขอบคุณข้อมูลจาก Facebook: daywork.th